หน้าหลัก
ลิงถูกรถชนตาย
- รายละเอียด
- หมวด: Uncategorised
- เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์, 06 มิถุนายน 2559 20:27
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 4193
ลิงถูกรถชนตาย
นายจารุพงศ์ พลเดช
ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
วันนี้ (6 มิถุนายน 2559 ) ได้รับทราบข่าวน่าเศร้าจากเฟดบุ๊ค ว่ามีรถยนต์ชน
ลิงกังตายที่เขาใหญ่ โดยมีลูกลิงตัวเล็กกอดและร้องหาแม่อยู่ตลอดเวลา ในที่สุดฝูงลิงก็รับลูกน้อยเข้าฝูง เพื่อเลี้ยงดูเป็นลูกลิงกำพร้าต่อไป
ข่าวนี้มิใช่ข่าวแรกที่เกิดขึ้น มีเกิดขึ้นทุกปี ในหลายปีที่ผ่านมาแม้แต่ในลพบุรี ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองลิง เมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ลิงทุกตัวมีอิสระ จะไปไหนมาไหนก็ได้หากินกันเป็นฝูงแบ่งอาณาเขตกันแน่นอน อยู่ร่วมกับคนมาเป็นเวลาช้านาน ด้วยที่ต่างต่างฝ่ายต่างรักษาสถานะภาพของตนเองไว้ คนมีลักษณะปกป้องทรัพย์สินและตนเองจากลิง ลิงก็มีความพยายามเพื่อความอยู่รอดในเมืองเก่าลพบุรี ใช่ว่าจะไม่มีเหตุรถยนต์ชนลิง เมื่อก่อนมีเกิดขึ้นเป็นประจำ แต่ส่วนใหญ่เกิดจากคนขับรถมาจากต่างถิ่น คนลพบุรีเองจะถ้อยทีถ้อยอาศัยกับลิง เมื่อเห็นลิงก็จะชะลอความเร็วของรถลง ลิงก็ผ่านไปด้วยความรวดเร็วมากขึ้น อาจมีอุบัติเหตุบ้างแต่น้อยครั้ง นั่นคือการปรับตัวของทั้งสองฝ่าย คนเราในยุคปัจจุบัน น่าจะลองคิดดูนะ ถ้าอยากจะอยู่กันอย่างสงบสุข
*****************************************************
มติที่ประชุมมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
- รายละเอียด
- หมวด: Uncategorised
- เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์, 30 พฤษภาคม 2559 08:34
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 4077
มติที่ประชุมมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
นายจารุพงศ์ พลเดช
ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2559 ที่ผ่านมาเมื่อ เวลา 10.00 น. ได้มีการประชุมคณะกรรมการมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี เพื่อปรึกษาหารือกันในหลายเรื่องด้วยกัน เพื่อหาทางช่วยเหลือลิงลพบุรีตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ ซึ่งการประชุมสรุปสาระสำคัญ ดังนี้
1.ทางมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี จะพยายามหาทางช่วยเหลือให้สามารถอยู่รอดได้ในระยะฝนแล้งนี้โดยจัดทำถังน้ำเพื่อเก็บน้ำไว้ให้ลิงได้ดื่มและอาบจำนวน 4 ถัง และได้มีมติให้มูลนิธิรักษ์ลิงลพบุรีของหมอเตย ยืมถังน้ำของมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรีไปใช้ช่วยเหลือลิงโดยทำสัญญายืมครั้งละ 2 ปี
2.ทางมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี จะได้เริ่มดำเนินการตามโครงการฌาปนกิจลิงที่มูลนิธิได้กำหนดโครงการไว้ โดยมีค่าดำเนินการครั้งละ 100 บาท ค่าทำบุญแก่พระสงฆ์ที่ทำพิธี 200 บาท โดยยินดีรับบริจาคจากผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน
3.โครงการประกวดภาพถ่ายกับลิงนั้น มูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี จะได้ประกาศผลการตัดสินในโอกาสต่อไป
4.เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย จะได้ดำเนินการจ่ายภาษีเงินได้ของมูลนิธิตามกำหนดเวลาตามกฎหมาย (ไม่เกิน 30 พฤษภาคม 2559 )
จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบโดยทั่วกัน
วัดสันเปาโลหอดูดาวแห่งแรกในสยาม
- รายละเอียด
- หมวด: Uncategorised
- เผยแพร่เมื่อ วันพฤหัสบดี, 26 พฤษภาคม 2559 20:20
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 4894
วัดสันเปาโลหอดูดาวแห่งแรกในสยาม
นายจารุพงศ์ พลเดช
ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
วัดสันเปาโล อำเภอเมืองลพบุรี นับเป็นโบราณสถานเก่าแก่แห่งหนึ่งในเมืองลพบุรี วัดนี้ตั้งขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช เป็นวัดของบาทหลวงเยซูอิต ปัจจุบันคงเหลือเพียงผนังด้านหลัง คำว่าสันเปาโล คงเพี้ยนมาจากคำว่าเซนตปอล หรือเซ็นต์เปาโล และชาวบ้านมักเรียกว่า ตึกสันเปาหล่อ วัดนี้นอกจากเป็นที่สอนศาสนาแล้ว ยังเป็นที่พักของพวกบาทหลวงจากฝรั่งเศส อีกทั้งยังเป็นหอดูดาวแห่งแรกของประเทศไทยอีกด้วย
วัดสันเปาโล สร้างเมื่อปี พ.ศ. 2228 โดยที่บาทหลวงตาชาร์ดได้บันทึกว่า หลังจาก สมเด็จพระนารายณ์ มหาราช ได้ทอดพระเนตรจันทรุปราคาแล้วทรงสัญญาว่าจะสร้างหอดูดาวในสยาม คาดว่าหอนี้จะแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2231 นับเป็นหอดูดาวเก่าแก่ที่สุดในราชอาณาจักรสยามที่แสดงถึงการติดต่อกับสังคมโลกตะวันตกเพื่อนำเอาวิทยาการก้าวหน้ามาใช้เพื่อเป็นประโยชน์ในยุคนั้น
หลวงพ่ออุ่นเมือง
- รายละเอียด
- หมวด: Uncategorised
- เผยแพร่เมื่อ วันอาทิตย์, 15 พฤษภาคม 2559 19:12
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 4917
หลวงพ่ออุ่นเมือง
นายจารุพงศ์ พลเดช
ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
วัดน้ำฮูเป็นวัดที่มีชื่อเสียงของอำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ คือ หลวงพ่ออุ่นเมือง ที่มีน้ำไหลออกจากพระเศียร จัดสร้างครั้งแรกในสมัยใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด พระพุทธรูปอุ่นเมือง เป็นพระสิงห์ รุ่นที่ 1 ขนาดหน้าตัก กว้าง 80 เซนติเมตร สูง 111 เซนติเมตร หล่อด้วยทองสัมฤทธิ์ ส่วนพระเศียรกลางมีพระโมลีครอบเชื่อกันว่าสร้างโดยสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นับเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองปาย ในส่วนพระเศียร มีน้ำซึมออกมาเป็นน้ำมนต์ ศักดิ์สิทธิ์
ตามความเป็นมาของหลวงพ่ออุ่นเมืองนั้น พบว่า พ.ศ. 2468 นายเหงพงษ์ พงษ์คำเต็ม และผู้ใหญ่บ้านทอน ไม่ทราบนามสกุล ได้ทำการบูรณะขึ้นใหม่ ต่อมา พ.ศ. 2474 ครูบาศรีวิชัย นักบุญแห่งล้านนาไทยได้นำคณะศิษยานุศิษย์เดินธุดงค์มายังอำเภอปาย ได้เห็นหลวงพ่ออุ่นเมือง ประดิษฐานอยู่ในศาลาหลังเก่าทรุดโทรมมาก จึงได้ทำการสร้างวิหารขึ้นหนึ่งหลังเพื่อประดิษฐานหลงพ่ออุ่นเมืองและสร้างเจดีย์ขึ้นอีกหนึ่งองค์หลังวิหาร
พ.ศ. 2515 ได้มีพระธุดงค์มาพักที่วัดนี้ ได้สังเกตพบว่าพระพักตร์ของพระพุทธรูปชุ่มชื้นเป็นพิเศษ ก็พบว่าพระเศียรของพระพุทธรูปนี้เป็นโพรง พระโมลีถอดได้ ในโพรงพระเศียรมีน้ำขังอยู่เต็ม สอบถามผู้ใดก็ไม่ทราบ และไม่มีใครกล้าตรวจสอบ พ.ศ. 2516 นายอำเภอปาย (ร.อ. ประเสริฐ เรียมศรี )และหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันทำการพิสูจน์ โดยตักน้ำออกจากเศียรพระและทำความสะอาด และปิดผนึกไว้จำนวน 5 วัน เมื่อครบกำหนดจึงได้มีการเปิดผนึกต่อหน้าพยาน ปรากฏว่ามีน้ำขังอยู่ในเศียรพระจริงตามคำเล่าลือ นับเป็นความน่าอัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง