หน้าหลัก
สุกทันตฤาษี มหาคุรุแห่งเมืองละโว้
- รายละเอียด
- หมวด: Uncategorised
- เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์, 26 มกราคม 2558 19:26
- เขียนโดย Super User
- ฮิต: 9274
สุกทันตฤาษี มหาคุรุแห่งเมืองละโว้
นายจารุพงศ์ พลเดช
ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี
อย่างที่ได้กล่าวไปในบทความเรื่อง ฤาษีคือใคร ไปแล้วนั้น (หากท่านยังไม่ได้อ่าน บทความเรื่องดังกล่าว กรุณาย้อนไปอ่านก่อนนะครับจะได้เข้าใจได้ง่ายขึ้น) ผมขอเล่าต่อไปถึงฤาษีที่มีความสำคัญและมีความเกี่ยวข้องกับจังหวัดลพบุรีในปัจจุบันหรือเมืองละโว้ในอดีตว่ามีความเป็นมาอย่างไรต่อไป.....นั่งลงเถิด...สหาย...ผมจะเล่าให้ฟัง
มหาคุรุแห่งเมืองละโว้
หากจะกล่าวกันแล้ว ฤาษีที่มีความเกี่ยวพันกับสุวรรณภูมิหรือสยามประเทศมาเมื่อเวลาประมาณพันกว่าปีมานี้เอง ในยุคเริ่มก่อตั้งอาณาจักรสยาม คือ ประมาณ พ.ศ. ๑๘๐๐ เศษ ๆ มีฤาษีที่มีชื่อปรากฏในเอกสารทางประวัติศาสตร์อยู่หลายองค์ด้วยกัน ที่สำคัญ ๆ ก็ได้แก่ พระวาสุเทพฤาษี ที่มีที่พำนักอยู่ ณ ยอดอุฉุจบรรพตหรือเขาอ้อย ( ดอยสุเทพ จังหวัดเชียงใหม่ในปัจจุบัน) อสีพรหมสิฤาษี มีที่พำนักอยู่ที่ ภูเขาสองยอด และสัชชนาลัยฤาษี มีที่พำนักอยู่ ณ ยอดเขา “สะดางค์” บรรพต ( เขาหลวงในจังหวัดสุโขทัยในปัจจุบัน) สุกทันตฤาษี มีที่พำนักอยู่ ณ เขา “ธรรมิกบรรพต” ในเขตเมืองละโว้ (ตำบลเขาสอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน)
สำหรับสุกทันตฤาษี ที่เป็นยอดคุรุแห่งเมืองละโว้นี้นั้น ปรากฏเอกสารทางประวัติศาสตร์ว่าได้เป็นอาจารย์ของกษัตริย์ถึงสามอาณาจักรด้วยกัน คือ อาณาจักรสุโขทัย (พ่อขุนรามคำแหง) อาณาจักรพะเยา (พ่อขุนงำเมือง) อาณาจักรโยนก (พ่อขุนเม็งรายมหาราช) เมื่อครั้งที่กษัตริย์ทั้งสามพระองค์นั้น ยังเป็นเจ้าชาย มาศึกษาเล่าเรียนกับสุกทันตฤาษีที่เขาธรรมิกบรรพตหรือเขาสมอคอนในปัจจุบัน เขาธรรมมิกบรรพตนั้น ตั้งอยู่ในบริเวณอำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี หากดูตามชัยภูมิแล้ว สภาพทางภูมิศาสตร์ของเมืองละโว้ในอดีตและจังหวัดลพบุรีในปัจจุบัน ตั้งอยู่ในขอบทางทิศตะวันออกของที่ราบภาคกลางตอนล่าง ต่อเนื่องกับขอบที่ราบสูงโคราช ตั้งอยู่บนที่ราบสลับกับเนินเขาและภูเขา บริเวณที่ราบลุ่มมีความสูงกว่าระดับน้ำทะเลประมาณ ๒๕ – ๖๐ เมตร เขาธรรมิกบรรพตจึงเป็นเส้นทางผ่านที่สำคัญในสมัยโบราณ ซึ่งมีความเกี่ยวพันกับกษัตริย์หลายองค์ ที่มาศึกษาเล่าเรียนแล้วกลับไปถิ่นเดิม ได้สร้างบ้านแปลงเมืองให้มีความเจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก สุกทันตฤาษีนับว่าเป็นยอดอาจารย์โดยแท้ ที่สามารถสั่งสอนลูกศิษย์ให้ประสบความสำเร็จจำนวนมาก ตามตำนานได้กล่าวว่า สุกทันตฤาษีนั้น เคยอุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนา ต่อมาได้ลาสิกขาไปเป็นเพศฆราวาส เมื่อครองเพศฆราวาสแล้ว ก็เกิดความเบื่อหน่ายในเพศฆราวาส จึงออกบวชเป็นฤาษี ได้ไปอยู่ในป่าหิมพานต์ บำเพ็ญเพียรได้ญาณสำเร็จ อภิญญา ๕ สมาบัติ ๘ แล้วจึงกลับมาพำนัก ณ เขาธรรมิกบรรพต (เขาสมอคอน)
เมื่อร้อยกว่าปีก่อน คือ ในสมัยรัชกาลที่ ๕ พระอาจารย์เภา พุทธสโร ได้เดินธุดงค์มาพบถ้ำบริเวณเขาสมอคอนแห่งนี้ แล้วพบว่า มีลักษณะเป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณ เป็นวัดร้างเก่าแก่มานาน โบสถ์วิหารไม่ปรากฏ คงเหลือแต่เถ้าที่แตกหักผุพังอยู่ในถ้ำ (ถ้ำตะโก ในปัจจุบัน) และได้พบกับพระพุทธรูปศิลายืนปางแสดงธรรมจักรองค์หนึ่ง มีความกว้าง ๒๓ นิ้ว สูง ๗๕ นิ้ว พุทธลักษณะศิลปะทรงเครื่องแบบลพบุรี ชาวบ้านทั่วไปเรียกว่า “ หลวงพ่อธรรมจักร” ต่อมาสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลสังฆปรินายก ถวายนามพระพุทธรูปองค์นี้ว่า “ พระพุทธธรรมิกราชศาสดา” เป็นที่เชื่อกันว่า พระพุทธรูปศิลายืนองค์นี้ จะสร้างราว พ.ศ. ๑๗๐๐ เข้าใจกันว่า เป็นพระพุทธรูปที่เจ้ากรุงละโว้ได้โปรดให้สร้างขึ้นเพื่อถวายต่อพระสุกทันตฤาษี
พระสุกทันตฤาษี นับว่าเป็นมหาคุรุแห่งเมืองละโว้โดยแท้ ท่านเป็นอาจารย์ของกษัตริย์ผู้ยิ่งใหญ่ถึงสามพระองค์ด้วยกัน เป็นมหาคุรุที่นำทางเสริมสร้างบ้านแปงเมืองสยามประเทศในอดีตให้เจริญรุ่งเรืองเป็นอันมาก ท่านได้สร้างตักศิลาแห่งลวปุระขึ้น นับเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรก ๆของสยามประเทศเลยทีเดียวและตั้งอยู่ในจังหวัดลพบุรี ในปัจจุบัน หากได้รับการบูรณะฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้ง คงจะยิ่งใหญ่ไม่น้อย หากท่านทั้งหลายที่ประสงค์ที่จะเรียนรู้จากอดีตแล้ว ขอเชิญทุกท่านไปศึกษาได้ที่ วัดถ้ำตะโกพุทธโสภา บนเทือกเขาสมอคอน อำเภอท่าวุ้ง จังหวัดลพบุรี ได้ทุกเวลาครับ.........