หน้าหลัก

ชีวิตจริงลิงกับลา

  • พิมพ์

                                                                                                                    นายจารุพงศ์   พลเดช

                                                                                                                                                                                                                                                                                                       ประธานมูลนิธิเพื่อลิงลพบุรี

 

                                        ชีวิตจริงลิงกับลาเป็นนิทานปรัมปราที่เล่าสู่กันฟังมาเป็นเวลานานนมกาเลแล้ว เป็นเครื่องเตือนใจ

ผู้คนมาในทุกยุคทุกสมัย.......สหายเอ๋ย...หากท่านปรารถนาที่จะฟัง จงนั่งลงแล้วลองสดับตรับฟังเถิด......นานกาเลมาแล้ว

มีเมืองเมืองหนึ่งมีความเจริญเป็นอันมาก มีผู้คนอาศัยอยู่กันอย่างหนาแน่น มากหน้าหลายตา ยิ่งคนมากเท่าใด แต่ละคนก็มี

นิสัยแตกต่างกันออกไป พฤติกรรมที่แสดงออกมาก็แตกต่างกัน บางคนซื่อตรง บางคนคดโกง บางคนเจ้าเลห์ไม่ได้กลก็เล่น

ด้วยมนต์คาถา..ขอให้ได้มาซึ่งอำนาจบารมี โดยไม่คำนึงถึงบาปบุญคุณโทษ แถมยังใช้อารมณ์ของตนเป็นหลักการตัดสินใจ

แต่อย่างไรก็ตามก็ไม่พ้นบ่วงของกรรมไปได้....อย่างที่เขาเล่าว่า คนเรานั้นย่อมเป็นไปตามกรรม กรรมเป็นกำเนิด และต้อง

ได้รับผลของกรรมในที่สุด....อนิจัง วัตสังขารา... 

                         มาเริ่มเรื่องเสียที...ในเมืองนี้มีหญิงสาวคนหนึ่งอาศัยอยู่ตัวคนเดียวในกระท่อมชายทุ่ง ด้วยความเหงา

จึงได้หาสัตว์เลี้ยงมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อนสองตัวด้วยกัน คือ ลิงกับลา วันหนึ่งหญิงสาวต้องออกจากกระท่อมไปทำธุระของตนในเมือง

ก่อนออกจากบ้านเธอได้นำเชือกมาผูกคอลิงและมัดขาของลาไว้ทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันมิให้สัตว์ทั้งสองเดินย่ำไปย่ำมาในกระท่อม

ของเธอ อันอาจจะทำให้ข้าวของเธอเสียหายได้ ทันทีที่หญิงสาวออกไปจากกระท่อม ลิงซึ่งมีความฉลาดและแสนซน ก็ค่อยคลาย

ปมเชือกออกจากคอของมัน และยังซุกซนไปแก้เชือกที่มัดขาให้กับลาอีกด้วย หลังจากนั้นลิงก็กระโดดโลดเต้นไปในกระท่อม

ทำลายทุกอย่างแม้กระทั้งเสื้อผ้าของหญิงสาว จนเสียหายเกือบหมดทั้งหลัง ขณะที่ลาก็ได้แต่ยืนมองการกระทำของลิงอยู่เฉยๆ

สักครู่เมื่อหญิงสาวกลับมา ลิงมองเห็นแต่ไกล ก็รีบเอาเชือกมาผูกคอตนไว้อย่างเดิมและอยู่อย่างสงบเสงี่ยม ฝ่ายหญิงสาวเมื่อมา

ถึงกระท่อม เห็นกระท่อมถูกทำลาย ก็หันไปมองลิงกับลา เพื่อดูว่าใครเป็นคนก่อเรื่อง เห็นว่าลิงไม่มีเชือกผูกดังเดิม เธอก็คิดว่าลา

เป็นคนก่อเรื่องจึงเอาท่อนไม้ทุบตีลาจนลานั้นสิ้นใจตายไปโดยไม่สามารถทำอะไรได้                                                                                                                    

                                          เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า น่าสงสารเจ้าลาที่ไม่ได้ทำผิดอะไรเลยแต่ต้องกลับมาตายเพราะความผิดของ

ลิงที่เป็นตัวต้นเหตุ หากมองให้ลึกลงไปก็ต้องมองที่ตัวหญิงสาวนั้น หากเธอใช้ความตั้งใจสังเกตซักนิด คิดตรองดูซักหน่อย..ก็จะพบว่า

ลาไม่มีปัญญาแก้เชือกได้อย่างแน่นอน และไม่มีนิสัยรื้อทำลายข้าวของ และหากสังเกตเพิ่มอีกนิดจะพบว่า ร่องรอยความเสียหายนั้น

จะเกิดจากฟันของลิงและมีรอยเท้าของลิงเต็มไปหมด เธอจะไม่พบรอยเท้าของลาเลยแม้แต่นิดเดียว  ดังนั้นการเป็นผู้นำคนนั้น

ต้องเป็นผู้นำที่ดี มีความรอบคอบ อย่าติดยึดกับความสบายรอแต่รับรายงาน ควรอกไปหาความจริงในพื้นที่เพื่อจะได้ทราบข้อเท็จจริง

ที่เป็นจริงแล้วค่อยตัดสินใจ ก็ยังไม่สายจนเกินไป เหมือนกับการควบคุมการกระทำของลิงให้อยู่กับร่องกับรอย มิฉะนั้นบ้านเมืองก็

จะปราศจากความสงบสุขร่มเย็น....นี้แหละครับ..ชีวิตจริงลิงกับลา.........